Sunday, 26 March 2023

เมสซี, เอ็มบัปเป้ นำทัพ! ทีมยอดเยี่ยม ฟุตบอลโลก 2022

เก็บ 11 นักเตะฟอร์มโดดเด่นที่สุด เข้ามาติดทีมยอดเยี่ยมประจำศึก ฟุตบอลโลก 2022 ของเรา

ฟุตบอลโลก 2022 สิ้นสุดลงแล้ว ด้วยจำนวนประตูที่มากเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งเกมสุดดราม่ามาก และปิดท้ายด้วยรอบชิงแชมป์ที่ตื่นเต้นเร้าใจที่สุดในประวัติศาสตร์ของรายการนี้

อาร์เจนตินาเอาชนะฝรั่งเศสในนัดชิงแชมป์ด้วยการดวลจุดลูกโทษ โดยในที่สุด ลิโอเนล เมสซี ก็ยุติการรอคอยถ้วยแชมป์ที่ต้องการมากที่สุดในชีวิตการค้าแข้งจนได้ และกลายมาเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแบบไร้ข้อโต้แย้งใดๆก็ตาม

นอกจากนี้ เมสซี ยังครอบครองรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมไปครองได้ด้วย ซึ่งแน่ๆว่าเขาคือตัวเลือกแรกในทีมยอดเยี่ยมประจำศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่จัดโดย GOAL

เอ็นโซ เฟร์นานเดซ

ส่วนอีก 10 คนที่เหลือมีคนไหนกันบ้าง ฟุตบอลโลก 2022 ติดตามได้ที่ด้านล่าง

ผู้รักษาประตู : เอมิเลียโน มาร์ติเนซ (อาร์เจนตินา)

หลังจากเสีย 2 ประตูให้กับซาอุดีอาระเบียในเกมแรก หลังจากนั้น มาร์ติเนซ ก็ไม่ปล่อยให้เกมรับของทีมจะต้องลำบากอีกเลย

นายด่านจากแอสตัน วิลลา มีทั้งลูกเซฟสุดสำคัญหลายคราวในเกมเวลาปกติ ทั้งยังโชว์ความเป็นผู้ชำนาญสำหรับเพื่อการเซฟจุดลูกโทษได้อย่างน่าทึ่ง

โดยเฉพาะในนัดชิงแชมป์ ที่เขาเซฟลูกยิงจ่อๆของ ร็องดาล โกโล มูอานี ช่วงท้ายเกมของยืดเวลาพิเศษ รวมทั้งยังเซฟลูกจุดโทษของ คิงส์ลีย์ โกมาน จนถึงพาทัพฟ้าขาวคว้าแชมป์โลกยุคที่ 3

และแน่ๆว่าเขาเป็นผู้เอารางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมประจำการแข่งขันแบบสมควรด้วยประการทั้งปวง

แบ็คขวา : อัชรอฟ ฮากิมี (โมร็อกโก)

แบ็คขวาจากปารีส แซงต์-แชร์กแมง โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ ด้วยการเป็นกำลังสำคัญสำหรับเพื่อการพาโมร็อกโกสร้างเซอร์ไพรส์ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ

โมเมนต์สำคัญของ ฮากิมี ต้องเป็นการยิงจุดโทษเป็นคนสุดท้ายด้วยการชิพแบบปาเนนก้าสุดคลาสสิค พาโมร็อกโกโค่นทีมใหญ่อย่างสเปน

เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ : นิโกลัส โอตาเมนดี้ (อาร์เจนตินา)

ด้วยวัยที่ล่วงมาถึง 34 ปีแล้ว ทำให้ไม่มีผู้ใดคาดหวังว่า โอตาเมนดี้ จะยังคงทำผลงานดีราวกับก่อนหน้า

แต่ด่านหลังจากเบนฟิก้ากลับทำผลงานได้ยอดเยี่ยมตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ ด้วยการใช้ประสบการณ์ความเก๋าคอยเป็นหัวใจในแนวรับของอาร์เจนตินา ถึงแม้อาจจะมีจังหวะพลาดทำเสียจุดลูกโทษลูกแรกในนัดชิงชนะเลิศ แต่นอกจากนี้ก็ถือว่าเขาโชว์ฟอร์มได้ดีเกินความคาดหมายทีเดียว

เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ : ยอสโก้ กวาร์ดิโอล (โครเอเชีย)

การโดน ลิโอเนล เมสซี หลอกจนถึงปั่นป่วนในรอบรองชนะเลิศ ไม่สามารถบังความยอดเยี่ยมของกองหลังวัยเพียงแค่ 20 ปีได้อย่างไม่ต้องสงสัย

กวาร์ดิโอล เป็นที่จำทั้งภาพลักษณ์ที่ใส่หน้ากากลงสนามทุกเกม รวมทั้งยังเป็นแถวรับที่เล่นได้สะดุดตาและนิ่งเกินวัย และคงจะจัดแจงทำเงินก้อนโตให้ต้นสังกัดอย่าง แอร์เบ ไลป์ซิด หากถูกขายไปให้ทีมยักษ์ใหญ่

แบ็คซ้าย : เตโอ แอร์กน็องเดซ (ฝรั่งเศส)

แบ็คซ้ายจากเอซี มิลาน ออกสตาร์ทเกมแรกด้วยการเป็นตัวสำรองของพี่ชายตัวเองอย่าง ลูกัส แอร์กน็องเดซ

แต่หลังจาก ลูกัส บาดเจ็บตั้งแต่ต้นเกม และจะต้องหยุดไม่มีกำหนดหลังต่อจากนั้น น้องชายอย่าง เตโอ ก็คว้าช่องทางไว้ได้ยอดเยี่ยม เมื่อจัดการยึดตัวจริงยาวมาจนถึงรอบชิงชนะเลิศ

ด้วยความที่เป็นนักเตะในตำแหน่งแบ็คอาชีพเพียงผู้เดียวของทีม ทำให้ เตโอ มีจุดเด่นที่การเติมเกมรับได้อย่างไหลลื่น โดยเฉพาะการเติมไปทำประตูขึ้นนำโมร็อกโกในรอบตัดเชือก

เอ็มบัปเป้

คนที่เหลือรับประกันได้เลยว่ามีแต่ตัวเด็ดๆ ทั้งนั้น

กองกลาง : โซฟยาน อัมราบัต (โมร็อกโก)

มิดฟิลด์จากฟิออเรนตินา แจ้งเกิดได้อย่างไม่มีใครคาดคิดในทัวร์นาเมนต์นี้

อัมราบัต นับว่าเป็นห้องเครื่องคนสำคัญที่รอขับเคลื่อนเกมของโมร็อกโกอีกทั้งรุกและรับ ด้วยจุดแข็งการวิ่งไม่มีหมด และพร้อมสู้บู๊ทุกจังหวะ โดยเฉพาะช็อตที่ถูกยกย่องเป็นอย่างมาก เป็นการวิ่งตามไปแทงสกัดแย่งบอลจาก คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ได้อย่างยอดเยี่ยม

แน่นอนว่าฝีเท้าขนาดนี้ เขาคงจะได้อยู่กับฟิออเรนตินาอีกไม่นาน และจัดเตรียมถูกทีมยักษ์ใหญ่ทุ่มเงินคว้าตัวไปเสริมทัพในไม่ช้านี้

กองกลาง : เอ็นโซ เฟร์นานเดซ (อาร์เจนตินา)

ดาวรุ่งจากเบนฟิก้า ออกตัวเกมแรกด้วยการเป็นตัวสำรอง แต่หลังจากได้โอกาสลงตัวจริงในเกมที่สอง และจัดการยิงใส่เม็กซิโกได้ด้วย เขาก็เปลี่ยนมาเป็นอันมากสำคัญของทีมแบบถาวร

และการเป็นตัวหลักของอาร์เจนตินาด้วยวัยเพียงแค่ 21 ปี ก็ส่งให้ เฟร์นานเดซ เอารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ไปครอบครอง และด้วยฟอร์มขนาดนี้ แน่ๆว่าเบนฟิก้าจัดเตรียมทำเงินก้อนโตจากการขายเขาให้ทีมยักษ์ใหญ่เร็วนี้ๆ

ตัวรุกฝั่งขวา : ลิโอเนล เมสซี (อาร์เจนตินา)

คงไม่ต้องกล่าวอะไรกันมากมายสำหรับนักเตะรายนี้

เมสซี ประกาศก่อนเริ่มการแข่งขันแล้วว่าจะเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของตัวเอง กับถูกเสนอคำถามมากเกี่ยวกับวัย 35 ปี เขาจะทำผลงานระดับมาสเตอร์พีซได้อีกหรือไม่

สุดท้ายเขาตอบคำถามกลุ่มนี้ ด้วยการกดไปถึง 7 ประตู คว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมและเติมเต็มความฝันด้วยการได้ชูถ้วยฟีฟ่า เวิลด์คัพแบบแฮปปี้เอนดิ้ง

หน้าต่ำ : อองตวน กรีซมันน์ (ฝรั่งเศส)

จากนักเตะที่เสมือนจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แต่ว่า กรีซมันน์ กลับมาเล่นเจริญอีกรอบในบทบาทใหม่

ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ผู้จัดการทีมฟุตบอลของฝรั่งเศสปรับตำแหน่งให้ดาวเตะจากแอตเลติโก มาดริดถอยลดน้อยลงมายืนเป็นเหมือนกองกลางหมายเลข 8 ซึ่งกลายเป็นว่าเขาบางทีอาจจะทำผลงานได้ดีมากว่าตอนเล่นเป็นหน้าต่ำที่ผ่านมาเสียอีก

แม้จะยิงประตูด้วยตัวเองไม่ได้ แต่เขาก็ทำไปถึง 3 แอสซิสต์ แปลงเป็นนักฟุตบอลปิดทองหลังพระของฝรั่งเศสประจำทัวร์นาเมนต์นี้อย่างแท้จริง

ตัวรุกฝั่งซ้าย : คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (ฝรั่งเศส)

เอ็มบัปเป้ พัฒนาตัวเองจากดาวรุ่งเมื่อปี 4 ปีก่อนที่รัสเซีย เปลี่ยนมาเป็นนักเตะระดับเวิลด์คบาสแบบเต็มตัวในปีนี้ที่กาตาร์

ตัวรุกจากปารีส แซงต์-แชร์กแมง กดไปถึง 8 ประตู คว้ารองเท้าทองคำไปครองในฐานะดาวซัลโวสูงสุดประจำทัวร์นาเมนต์นี้

โชคร้ายที่ยังไม่พอที่จะพาฝรั่งเศสป้องกันแชมป์ได้ตามที่หวัง

แผงหน้า : ฮูเลียน อัลวาเรซ (อาร์เจนตินา)

อีกหนึงนักเตะของอาร์เจนตินาที่เริ่มเกมแรกด้วยการเป็นตัวสำรอง แต่หลังจากยึดตัวจริงได้ในเกมที่สอง หลังแล้วหลังจากนั้นก็กลายเป็นกำลังหลักของทีมแบบสุดกำลังจนถึงจบทัวร์นาเมนต์

อัลวาเรซ กลายมาเป็นคู่หูต่างวัยที่เล่นร่วมกับ ลิโอเนล เมสซี ได้อย่างพอดี และยังโชว์ความเฉียบคมด้วยการยิงไป 4 ประตู

นั่นทำให้แฟนบอลทีมอื่นๆต่างริษยาแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กันยกใหญ่ ที่มีสองยอดเยี่ยมแผงหน้าดาวรุ่งแห่งยุคทั้ง อัลวาเรซ รวมถึง เออร์ลิง ฮาลันด์ อยู่ในทีม